Anticancer effects of garlic.Allium sativum Linn.ฤทธิ์ต้านมะเร็งของกระเทียมกระเทียม
สรรพคุณทางยา
- รักษาโรคบิด
- ป้องกันมะเร็ง
- ระงับกลิ่นปาก
- ลดระดับไขมัน คอลเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือด
- ขับพิษ และ สารอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
- มีกลิ่นที่ฉุนจึงสามารถไล่ยุงได้ดี
- ขับลม
กระเทียม
Allium sativum Linn.
Garlic
Alliaceae
สถาบันวิจัยมะเร็ง ประเทศสหรัฐอเมริกา
พบความสัมพันธ์ระหว่างการลดอัตราการเกิดมะเร็งในทางเดินอาหารกับอาหารซึ่งมีกระเทียม
หอม และหอมหัวใหญ่ พบว่าในจำนวนผู้ที่ทำการศึกษา 1,695 คน มี 564
คนเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร
และในจำนวนผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพวกที่รับประทานกระเทียมน้อยหรือไม่รับประทานเลย
และพบว่าชาวจีนที่ไม่รับประทานกระเทียมมีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากกว่าผู้ที่กินกระเทียมในปริมาณมากอยู่เสมอถึง
1,000
เท่า
นอกจากนี้ยังมีผู้พบว่า diallyl disulfide ลดการก่อให้เกิดมะเร็ง เนื่องจากสาร nitrosamine ซึ่งสารนี้มักจะได้มาจากอาหารที่มี nitrate สูง รวมทั้งผักบางชนิด
สารจากกระเทียมจะไปยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของ nitrosamine ไปเป็นสารซึ่งก่อมะเร็งอย่างรุนแรงได้ จึงเชื่อว่า diallyl disulfide น่าจะเป็นสารสำคัญที่ช่วยลดการเกิดมะเร็งในผู้ป่วยที่กินกระเทียมอยู่เสมอ
Wargovich และคณะ
ได้รายงานฤทธิ์ในการรักษามะเร็งในทางเดินอาหารของ diallyl sulfide ซึ่งเป็นสารที่พบในกระเทียมโดยสามารถต้านพิษของ
dimethylhydrazine
และ N-methyl-N-nitroso-methylamine ที่ทำให้เกิดมะเร็ง
ผลิตภัณฑ์กระเทียม
-ป้องกันการเกิดมะเร็ง
หรือใช้เป็น adjuvant ในการบำบัดมะเร็ง
เพราะสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งจากคน
และการทดลองยังชี้ให้เห็นว่าสามารถยับยั้งมะเร็งต่างๆ ในสัตว์ทดลอง ได้แก่
มะเร็งเต้านม กระเพาะปัสสาวะ ผิวหนัง ลำไส้ใหญ่ หลอดอาหาร กระเพาะอาหารและปอด
ซึ่งกระบวนการออกฤทธิ์อาจเนื่องมาจากการยับยั้งการทำงานของสารก่อมะเร็ง
เพิ่มอัตราการขับสารก่อมะเร็ง ป้องกันไม่ให้สารก่อมะเร็งจับกับ DNA เพิ่มประสิทธิภาพของเอนไซม์ที่ทำให้เกิดมะเร็ง
หรือผ่านกระบวนการกระตุ้นภูมิต้านทาน ช่วยลดอาการข้างเคียงของยามะเร็ง
ฤทธิ์ต้านมะเร็งของกระเทียม
ได้มีการทดลองฆ่าเซลล์มะเร็งของ allicin และอโจอินซึ่งสลายมาจาก allicin พบฤทธิ์ที่น่าสนใจคือ สารทั้ง 2 ชนิด
จะออกฤทธิ์ต่อเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองโดยต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง จึงจะเข้าไปในเซลล์และออกฤทธิ์ทันทีที่เข้าไป
อโจอินจะมีฤทธิ์แรงกว่า allicin
2 เท่าและคงตัวกว่า allicin และอโจอินจะเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งมากกว่าเซลล์ปกติถึง
2
เท่า
จึงมีแนวโน้มที่ดีในการพัฒนามาใช้เป็นยารักษามะเร็ง และผู้วิจัยยังเน้นว่า
อโจอินไม่ระคายเคืองต่อผิวหนังและตาอีกด้วย
นอกเหนือจากนี้
ยังมีการวิจัยฤทธิ์ในการต้านมะเร็งในสมุนไพรชนิดอื่นๆอีกจำนวนมาก
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น